วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ท้องตมใหญ่โฮมสเตย์

หมู่บ้านท้องตมใหญ่ อำเภอฉวี จังหวัดชุมพร เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีประวัติพบเห็นมาไม่ต่ำกว่า 400 ปี มีราษฏรอาศัยประมาณ 170 หลังคาเรือนประชากรในหมู่บ้านท้องตมใหญ่มีประมาณ 652 คน ชาวบ้านประกอบอาชีพประมงเล็กๆ ส่วนใหญ่เป็นเรือหางยาวทำมาหากินกับทรัพยกรใกล้ ๆ ชายฝั่ง หมุนเวียนไปตามฤดูกาลเช่น ตกหมึก วางอวนปลา อวนกุ้ง อวนปู ในส่วนของโฮมสเตย์เกิดจากว่าเวลามีใครผ่านไปผ่านมาแล้วเข้ามาดู ก็เห็นว่าเงียบสงบ บรรยายกาศดี วิวสวย นักท่องเที่ยวจึงเข้ามาติดต่อหาที่พักค้างคืน โดยที่หมู่บ้านยังไม่ได้ตั้งใจจัดสร้างเป็นโฮมสเตย์ เป็นการใช้สถานที่ที่มีอยู่แล้วให้แขกเข้ามาพัก เป็นการพักที่สัมผัสบรรยายกาศของชาวบ้านโดยแท้จริง ไม่มีการจัดการที่มีรูปแบบบริการเหมือนกับที่อื่น บ้านท้องตมใหญ่จะมีเสน่ห์ในตัวเอง เนื่องลักษณะภูมิประเทศเป็นอ่าวรูปเกาะเกือกม้า เป็นอ่าวที่ค่อนข้างปิดจึงสามารถจัดสรรทรัพยากรกันเองในหมู่บ้านไม่ได้เป็นอ่าวเปิดที่ใช้ร่วมกันเหมือนกับหลายๆ ที่ และชาวบ้านมีจิตใจเป็นน้ำหนึ่งเดียวกันในการรักษาทรัพยาการธรรมชาติ นอกจากการท่องเที่ยว ก็ยังมีกิจกรรมเชิงอนุรักษ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลน ชาวบ้านช่ายกันปลุกป่าชายเลน การทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำต่างๆ

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โฮมสเตย์บ้านอาลึ

การท่องเที่ยวและการพักผ่อนจะช่วยทำให้มีสุขภาพดีอีกทั้งยังถือเป็นการให้รางวัลชีวิตในยามต้องการคลายเครียดจากการทำงาน หากท่านต้องการท่องเที่ยวในวิถีชีวิตที่เป็นการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติและการพักผ่อนแบบเรียบง่ายเป็นกันเองแบบไทยๆ เราขอแนะนำท่านไปสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาวกุยที่บ้านอาลึโฮมสเตย์ บ้านอาลึ ต.สำโรงทาบ เป็นหมู่บ้านที่มีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนชาวกุยซึ่งได้อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้อย่างครบถ้วน ในหมู่บ้านจะได้พบเห็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ ความเชื่อและพิธีกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ชาวบ้านอาลึจะมีความเชี่ยวชาญในการทอผ้าไหม ปัจจุบันได้พัฒนาการทอผ้าเป็นสินค้าโอท๊อปที่มีชื่อเสียงและเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวและชุมชน บ้านอาลึ หมู่ที่ 4 อยู่ห่างจากจังหวัดสุรินทร์ประมาณ 60 กิโลเมตร ห่างจากอำเภอสำโรงทาบ 5 กิโลเมตร ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2459 ตั้งชื่อตามต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นใกล้หนองน้ำบ้านอาลึ หากได้มาเที่ยวบ้านอาลึ ท่านจะได้ชมบ้านแล้วชางข้าวก่อสร้างด้วยสถาปัตย์แบบชาวกุย ชมและเรียนรู้การทอผ้าไหมแบบพื้นเมือง การย้อมผ้าไหมด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านที่สะสมมาชั่วหลายอายุคน ชมการตัดเสื้อชาวกุยที่มีลักษณะเฉพาะตัว และแน่นอนจะได้ชมการแสดงพิธีกรรมท้องถิ่น รำแกลมอ พิธีกรรมการเซ่นศาลปู่ตา โฮมสเตย์บ้านอาลึพร้อมให้บริการจำนวน 10 หลัง ค่าบริการบ้านพักเพียง 100 บาทต่อคนต่อคืน ค่าบริหาอาหาร 50 บาทต่อคนต่อมื้อ และมีมัคคุเทศก์บริการ คิดค่าบริการเพียง 200 บาทหรือหากต้องการชมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นรำแกลมอ นักท่องเที่ยวจ่ายเพิ่มเพียง 1,500 บาทเท่านั้น สนใจติดต่อได้ที่ อบต.สำโรงทาบ เบอร์โทรศัพท์ 044-728314 หรือที่ว่าการอำเภอสำโรงทาบ 044-569121 เที่ยวอย่างมีความสุขพักผ่องอย่างสบายที่บ้านอาลึโฮมสเตย์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โฮมสเตย์บ้านแม่กำปอง

วันนี้จะขอแนะนำหมู่บ้านอยู่หมู่บ้านหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ก็คือบ้านแม่กำปองนั่นเอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ท่ามกลางหุบเขาในเขตอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ภูมิประเทศของหมู่บ้านแม่กำปองแห่งนี้ ตั้งอยู่ในหุบเขาท่ามกลางภูเขาล้อมรอบทำให้หมู่บ้านแม่กำปองนั้นมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย เรียกได้ว่าหนาวจัดมากๆ บ้านเรือนส่วนใหญ่นั้นก็เป็นบ้านไม้แทบทั้งสิ้น ความน่ารักอีกอย่างของที่นี่ก็คือ มีลำธารเล็กๆ ไหลผ่านหมู่บ้านเวลาที่เรานอนตอนกลางคืน เราก็จะได้ยินเสียงตลอดเวลารู้สึกไม่เหงาเลย ในตอนเช้านักท่องเที่ยงก็จะมีการทำบุญตักบาตรร่วมกับเจ้าของบ้าน กลิ่นไอวิถีชีวิตแบบชาวบ้านลอยอบอวลอยู่ทั้งหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะชื่นชอบจนต้องแนะนำกันแบบปากต่อปาก กิจกรรมในบ้านแม่กำปองที่นักท่องเที่ยวจะได้มีส่วนร่วมนั้นก็น่าสนใจเช่นกัน โดยจะมีทั้งการท่องเที่ยวดูวิถีชีวิตของชุมชน ดูการเก็บใบชา การทำเมี่ยง การทำสมุนไพร การปลูกกาแฟ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านที่นี่ และที่บ้านแม่กำปองนี้ก็จะมีวัดประจำหมู่บ้านชื่อว่า วัดคันธาพฤกษา หรือ วัดแม่กำปอง ซึ่งได้มีการสร้างมา 70 ปีแล้วเป็นวิหารไม้ทั้งหลังเลย หัวจั่วหลังคาวัดแกะสลักจากไม้สักเป็นลวดลายแบบล้านนา ส่วนจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ของวัดนี้ก็คือ ด้านบนหลังคาจะมีต้นมอสเล็กๆ และกล้วยไม้ขึ้นปกคลุมเต็มไปหมดดูแล้วสวยงามมากและก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดทั้งปี ในด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในหมู่บ้านก็มีเช่นกัน น้ำตกแม่กำปองนั่นเอง ซึ่งจะมีสายน้ำไหลตลอดทั้งปีและมีความสูงถึง 7 ชั้น สวยมาก นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีการท่องเที่ยวแบบชะนี หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเที่ยวบินของชะนี ซึ่งหมายถึงว่าผู้เล่นจะต้องห้อยโหนโยนตัวไปตามต้นไม้ ต้นต่อต้นไปเรื่อยๆ ความรู้สึกที่จะได้เล่นตอนนั้นสนุกและก็ตื่นเต้นมากๆ

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โฮมสเตย์กระชังลอยน้ำระยอง

วันนี้พามาเที่ยวที่จังหวัดระยอง เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ซึ่งเราจะมาศึกษาชีวิตของชาวเลรวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำทุกอย่างที่เราจะได้เล่นเพลิดเพลินแบบเป็นส่วนตัว วันนี้เราจะไปพักที่กระชังของลุงแก่ ซึ่งอีกแบบหนึ่งลุงแก่ก็จะขับสปีดโบ๊ดมารับเราที่ท่าเรือแห่งนี้ บนเนื้อที่ของพื้นน้ำทะเลประมาณ 2 ไร่ ห่างจากฝรั่งประมาณ 400 เมตรนี้คือการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างกระชังปลาและโฮมสเตย์ที่เปิดตัวให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และศึกษาวิถีชีวิตชาวเลควบคู่กับความสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำอย่างเป็นส่วนตัว และได้ลิมรองอาหารทะเลสดๆ จากกระชังในหลากหลายเมนู ด้วยความที่ลุงแก่เป็นคนที่รักทะเลมาก และก็ใช้ชิวิตอยู่ในทะเลมาตั้งแต่เด็ก ทำประมงมาก็หลายรูปแบบแล้วจนปัจจุบันนี้ลุงแกก็ตัดสินใจทำประมงเลี้ยงปลาอยู่ในกระชัง และวิถีชีวิตที่นี่เรียบง่ายและก็มีความสุขจริงๆ เช้าๆ แบบนี้ตื่นมาลุงแก่ก็จะมีมาให้บริการแล้วสำหรับอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็นกาแฟหรือข้าวต้ม ถือว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งชีวิตที่มีความสุขมากจริงๆ ตอนแรกลุงแก่ก็เลี้ยงแต่ปลาเศรษฐกิจอย่างเช่น ปลาเก๋า ปลากระพงขาว และได้เลี้ยงปลาทะเลซึ่งเป็นปลาที่หาได้เองจากบริเวณใกล้เคียงไว้จนโต เลี้ยงไว้ดูเล่นบ้าง เลี้ยงไว้ขายบ้างตามประเภทของปลานั้นๆ บวกกับความที่แกเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี มีความรู้เรื่องทะเลอย่างแท้จริง ทำให้แขกใครไปใครมาที่กระชังอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นลุงแก่เองจึงตัดสินใจทำสถานที่พัก ที่ทั้งสงบบรรยากาศดี และได้รับอัธยาศัยที่เป็นมิตรจากเจ้าของที่พักอย่างแท้จริง โฮมสเตย์แห่งนี้ ลุงแก่บอกว่ายังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็อาศัยคนรู้จักและคนมาเที่ยวพูดกันปากต่อปาก สถานที่พักในทะเลที่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัวสูงแบบนี้ อาหารทะเลสดๆ แบบนี้ ตัวใหญ่ๆ แบบนี้ รสชาติอาหารแบบพื้นบ้านบ้านเพ และกิจกรรมทางทะเลมากมาย อย่างเช่นการดำน้ำดูประการัง พายเรือขยัก การตกหมึก แต่กรณีตกหมึก ลุงแก่บอกว่าต้องตามฤดูกาล นอกจากนั้นก็เป็นการพักแบบสบายๆ บนกระชังแห่งนี้